แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การตลาด แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ การตลาด แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561

สวัสดีครับหลังจากท่ีไม่ได้โพสต์มานาน วันนี้ผมขอนำเสนอเว็บไซต์สำหรับพ่อค้า แม่ค้าที่ต้องการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขายให้กับลูกเพจ เช่น การสุ่มไลค์ สุ่มแชร์ สุ่มคอมเมนต์เพื่อแจกของรางวัล ซึ่งเว็บไซต์ที่ว่านี้ก็คือ https://www.hereprize.com อ่านว่า เฮียไพรซ์ดอทคอม
ขั้นตอนการสมัครสมาชิกง่ายนิดเดียว เพียงมีบัญชีผู้ใช้งานของเฟซบุ๊คเท่านั้น โดยคลิกไปที่ เข้าสู่ระบบ > Facebook Login จะปรากฎหน้าจอขอสิทธิ์ในการเข้าสู่ระบบให้คลิกดำเนินการต่อ
หลังจากเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว HerePrize.com จะเพิ่มเหรียญสำหรับการสมัครสมาชิกครั้งแรก 2,000 Points ให้โดยอัตโนมัติ
เริ่มแรกก่อนสร้างกิจกรรมเราจะต้องเพิ่มแฟนเพจที่ต้องการก่อน โดยเข้าไปที่เมนู กิจกรรมของคุณ > แฟนเพจของคุณ จากนั้นนำลิงค์แฟนเพจมาใส่แล้วคลิกเพิ่มเพจ
เมื่อได้แฟนเพจมาแล้วขั้นตอนต่อไปเป็นการเชื่อมโยงกิจกรรมเข้ากับหน้าหลักของโพสต์บนเฟซบุ๊ค โดยเข้าไปที่ กิจกรรมของคุณ > สร้างกิจกรรม จากนั้นให้เลือกแฟนเพจที่ต้องการ คลิกดึงโพสต์จากแฟนเพจระบบจะทำการดึงโพสต์ล่าสุด 30 รายการ ให้ผู้ใช้เลือกโพสต์ที่ต้องการ กำหนดวันที่และเวลาในการจัดกิจกรรม เลือกประเภทการจัดกิจกรรม ซึ่งในปัจจุบัน HerePrize.com มีประเภทการจัดกิจกรรมทั้งสิ้น 4 ประเภท ได้แก่
1. กดถูกใจบทความ เป็นการสุ่มผู้ใช้งานที่กดถูกใจโพสต์ของเรา โดยสามารถเลือกประเภทที่ต้องการสุ่มได้หลายแบบ เช่น ถูกใจ, รัก , เศร้า, เกลียด, ว๊าว
2. กดแชร์บทความ เป็นการสุ่มผู้ใช้งานที่กดแชร์โพสต์ โดยการแชร์จะต้องเป็นการแชร์แบบสาธารณะเท่านั้น
3. การคอมเมนต์บทความ เป็นการสุ่มผู้ใช้งานทุกคนที่เข้ามาคอมเมนต์โพสต์
4. การคอมเมนต์บทความแบบมีเงื่อนไข เป็นการสุ่มผู้ใช้งานทุกคนที่เข้ามาคอมเมนต์โพสต์ โดยมีการคอมเมนต์ที่ตรงตามเงื่อนไขข้อความที่กำหนดไว้ เช่น เงื่อนไขคอมเมนต์ต้องมีคำว่า "HerePrize" (ระบุเงื่อนไขในระบบ <SEARCH>HerePrize</SEARCH) หากสมาชิกแฟนเพจโพสต์ข้อความว่า "เว็บไซต์ HerePrize.com เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการสุ่มไลค์ สุ่มแชร์ สุ่มคอมเมนต์ เพื่อจัดกิจกรรมบนเฟซบุ๊ค" คอมเมนต์นี้จะตรงตามเงื่อนไข และจะถูกนำมารวมในการสุ่มเพื่อประกาศผลรางวัล
ขั้นตอนการประกาศผลรางวัล
การประกาศผลรางวัลกิจกรรม ไม่จำเป็นว่าจะต้องครบกำหนดเวลาก็สามารถประกาศผลรางวัลได้ ขั้นตอนการประกาศผลให้คลิกที่ กิจกรรมของคุณ > จัดการกิจกรรม > เลือกกิจกรรมที่สร้างไว้ จากนั้นคลิกที่ประกาศผลรางวัล พิมพ์จำนวนผู้โชคดี (ใช้ในการสุ่ม) จากนั้นคลิกปุ่มสุ่มรางวัล ระบบจะดึงข้อมูลล่าสุดจากเฟซบุ๊ค และทำการสุ่มตามจำนวนที่กำหนดไว้
หลังจากประกาศผลรางวัลเราสามารถดูรายชื่อทั้งหมดที่ดึงจากเฟซบุ๊คที่ด้านล่าง ซึ่งรายชื่อนี้สามารถส่งออกเป็นรูปแบบไฟล์เอกสาร Excel ได้
ใครเหมาะสำหรับเว็บนี้ ?
- พ่อค้า แม่ค้าที่ต้องการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้กับลูกเพจ
- บุคคลทั่วไปสำหรับการค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลในโพสต์เฟซบุ๊คที่ต้องการ
ทั้งหมดนี้เป็นการอธิบายในภาพรวมของระบบเท่านั้น หากต้องการศึกษาเพิ่มเติม สามารถดูวิดีโอขั้นตอนการใช้งานได้ที่ คู่มือการใช้งาน HerePrize.com

วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558


บริการซับมิทไอพีด้วยโดเมน Class A B C ช่วยเพิ่มอันดับบน Google ด้วยราคาพิเศษเพียงคีย์ละ 700 บาทเท่านั้น

รายละเอียดบริการ
- โดเมน .com มากกว่า 170+ โดเมนที่มีค่า PageRank ตั้งแต่ 1-4
- โดเมนมีค่า DA (domain authority) และ PA (page authority) โดเมนส่วนมากอยู่ที่ 15-30
- เราใช้ Word Press เป็นตัวชี้โดเมนเพื่อกระจายค่า Backlink
- ท่านสามารถใช้บทความของท่านเองได้ ในกรณีที่ท่านไม่มีบทความเราจะมีทีมงานเขียนบทความให้ฟรี
- เราไม่รับเว็บไซต์ผิดกฎหมาย หรือหมิ่นสถาบัน หากท่านต้องการให้เราตรวจสอบเว็บไซต์สามารถส่งลิงค์มาให้เราดูก่อนได้
- เราไม่รับประกันอันดับ เพราะการซับมิทไอพีเป็นการเพิ่ม Backlink ให้กับเว็บไซต์เพื่อส่งผลให้อันดับการค้นหาดีขึ้นในระยะยาว

สิ่งที่ท่านต้องเตรียมให้เรา
- ลิงค์เว็บไซต์ (URL)
- คีย์เวิร์ดที่ท่านต้องการ (Keyword)
- การซับมิทเราจะตั้งเวลาการโพสต์บทความอัตโนมัติ ท่านสามารถเลือกเวลาการโพสต์ได้ เช่น 3 วัน 5 วัน หรือ 15 วันก็ได้ (ค่าเริ่มต้น 7 วัน)
- ส่งข้อมูลที่ต้องการมาที่อีเมล์ seo.permlike@gmail.com
การซับมิทไอพี คือ วิธีการนำเว็บไซต์ที่มีฐาน PR (Page Rank), DA (Domain Authority) และ PA (Page Authority) ที่มีคุณภาพชี้ไปยังเว็บไซต์เป้าหมายที่ต้องการให้มีอันดับในการค้นหาดีขึ้น (Backlink) โดยหลักการจะใช้เว็บไซต์ที่มีโดเมนไอพีอยู่ในคลาส A, B และ C ซึ่งเป็นคลาสที่ Google Search ให้อันดับความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ส่วนใหญ่แล้วจะทำกับเว็บที่เขียนบทความ (ขับเคลื่อนโดย Word Press) ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บที่จะเชื่อมโยง โดยการแทรกลิงค์พร้อมคีย์เวิร์ดที่ต้องการไปกับบทความนั้นๆ จากนั้นก็แค่รอให้ Google Bot เข้ามาเก็บลิงค์เพียงเท่านี้เว็บไซต์เป้าหมายก็จะเป็นที่รู้จักของ Google Search ส่งผลให้อันดับใน Search Engine ขยับสูงขึ้นด้วย ยิ่งมีลิงค์คุณภาพที่เชื่อมโยงมาก ก็จะส่งผลให้อันดับการค้นหาดีมากขึ้นด้วย

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Backlink เป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษ 2 คำ คือ back แปลว่า ย้อนกลับ และ link แปลว่า การเชื่อมโยง เมื่อนำทั้งสองคำมารวมกันจะได้คำศัพท์ใหม่ Backlink ที่หมายถึง ลิงค์ที่เชื่อมโยงเข้าหาเว็บไซต์ของเรานั่นเอง ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของเว็บไซต์เราดังภาพด้านบน Google จะชอบเว็บไซต์ที่มี Backlink เยอะๆ เพราะนั่นหมายความว่าเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ใครๆ ก็อยากเข้ามาชม ไม่เชื่อคุณลองเช็ค Backlink จากเว็บไซต์ที่อยู่ตามหน้าแรกของ Google ดูก็ได้ครับ แต่ละเว็บมี Backlink ระดับ 10,000 ลิงค์กันทั้งนั้น


แล้วเราจะหา Backlink ได้จากที่ไหนหร่ะ ???
1. ตามเว็บบอร์ดต่างๆ ที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด โดยคุณอาจนำลิงค์เว็บไซต์ไปแนบท้ายเพื่อเป็นลายเซ็นต์ก็ได้
2. เว็บไซต์ที่รับแลกลิงค์ฟรี เช่น เว็บเพิ่มไลค์ดอทคอม แต่ทั้งนี้อาจมีบางเว็บไซต์ที่ต้องการแลกเฉพาะเว็บไซต์ที่มีค่า Pagerank มากกว่า 2 ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของเจ้าของเว็บด้วย
3. นำลิงค์เว็บไซต์ไปฝากไว้ที่ Web Directory ซึ่งจะมีหมวดหมู่ให้คุณเลือกว่าเว็บไซต์คุณอยู่ประเภทใด
4. แชร์เว็บไซต์ผ่าน Social Network เช่น Facebook Google+ หรือ Twitter ซึ่งเว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ Google จะให้ความสำคัญเป้นอย่างมาก
5. ซื้อลิงค์จากเว็บไซต์ที่มีค่า Pagerank สูงๆ ซึ่งราคาก็จะแปรผันไปตามค่า Pagerank ด้วย อาจเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยถึงระดับหมื่นบาทเลยทีเดียว
6. นำเว็บไซต์ของคุณไปหา แหล่งแลกเปลี่ยนผู้เข้าชม (Traffic Exchange) เพื่อเพิ่มยอดคนดูเว็บไซต์

การเพิ่ม Backlink เป็นวิธีการทำ SEO ที่ค่อนข้างประหยัด แต่ต้องแลกมาด้วยความมุ่งมั่นพยายามในการหา Backlink ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางทีการที่คุณมี Backlink เยอะๆ และได้จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ Pagerank สูงๆ เว็บไซต์คุณอาจติดอันดับ Top 10 Google ได้ในเวลาที่รวดเร็วอย่างแน่นอน ที่สำคัญอย่าลืมใส่ใจในคุณภาพของการนำเสนอเนื้อหาเว็บไซต์ด้วย Backlink นั้นเป็นเพียงองค์ประกอบภายนอกเท่านั้น สิ่งที่จะตราตรึงใจผู้เข้าชมได้ตลอดคือ คุณภาพและความใส่ใจในบริการที่พร้อมมอบให้กับลูกค้า

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557

จากสถิติการใช้งานเว็บไซต์ทั่วโลก เว็บไซต์ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คงไม่พ้น Google อย่างแน่นอน แล้วเหตุใดถึงเป็นเช่นนั้นได้ ??? คุณลองคิดดูซิครับ หากคุณต้องการค้นหาสิ่งใดก็ตาม เพียงแค่พิมพ์ค้นหาใน Google ก็จะได้รับคำตอบอย่างรวดเร็ว Google จึงเปรียบเสมือนเป็นดัชนีที่ช่วยค้นหาที่อยู่ของเว็บไซต์เราให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เว็บไซต์เกิดใหม่เปรียบเสมือนเข็มในมหาสมุทร หากไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนคงใช้เวลานานไม่ใช่น้อยกว่าจะหาเจอ ถูกมั้ยครับ ! เว็บไซต์ที่ Google ชอบต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้น ดังนี้
1. เนื้อหาต้องไม่เหมือนใคร Google ทราบดีหากคุณคัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่น และมาโพสต์ไว้ที่เว็บไซต์ของคุณ Google จะมองว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บขยะทันที
2. อัพเดตข้อมูลเป็นประจำ Google จะส่งโรบอท (Google Robot) เข้ามาเก็บข้อมูลตามเส้นทางในเว็บไซต์ของคุณ หากเว็บไซต์มีความเคลื่อนไหวอยู่เป็นประจำ เจ้าตัวโรบอทจะหมั่นมาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอๆ แลนั่นก็แปลว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์เป้าหมายของ Google แล้ว
3. ใช้คีย์เวิร์ดให้เป็นประโยชน์ Google สามารถตรวจสอบได้ว่าเว็บไซต์มีบทความเกี่ยวกับเรื่องใดมากที่สุด โดยการนำบทความต่างๆ มาค้นหาคีย์เวิร์ดที่ซ้ำกันมากที่สุด และนำมาจัดทำดัชนีในการค้นหา ดังนั้นในเนื้อหาบทความควรประกอบด้วยคีย์เวิร์ดอย่างน้อย 3-5 คำต่อ 1 บทความ
4. ลิงค์ภายในต้องเชื่อมโยงกัน โรบอทกูเกิ้ลจะเดินทางได้ต้องอาศัยเส้นทาง (Link) ที่เชื่อมโยงไปยังสถานที่ต่างๆ เว็บไซต์ของคุณต้องมีลิงค์ภายในที่สามารถเชื่อมโยงไปมาหาสู่กันได้ เปรียบเสมือนหน้าเว็บเพจคือบ้านและลิงค์คือถนน
5. เก็บรักษา Page Rank ไว้ให้ดี คุณต้องลิงค์ไปยังเว็บไซต์ภายนอกให้น้อยที่สุด หากจำเป็นจริงๆ ควรเพิ่มแอตทริบิวต์ rel=’nofollow’ ในแท็ก <a></a> ด้วยทุกครั้ง
เทคนิคเบื้องต้น 5 ข้อที่ได้กล่าวมานี้ จะช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณมีคุณค่าในสายตา Google และ Search Engine อื่นๆ ได้อย่างแน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ทุกวันนี้มีธุรกิจเกิดใหม่มากมายผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด และธุรกิจที่มาแรงในตอนนี้คงขาดไม่ได้คือการขายสินค้าออนไลน์ ด้วยข้อดีของการขายสินค้าออนไลน์ที่ประหยัดทั้งต้นทุน ประหยัดเวลาในการซื้อสินค้า ผู้ใช้เพียงแค่ค้นหาใน Google สินค้าที่ต้องการก็จะปรากฎให้คุณได้ช็อปกระจายกันเลยทีเดียว แต่ทำอย่างไรหร่ะถึงได้ไปอยู่อันดับต้นๆ ของ Google ได้ วันนี้เรามีคำตอบให้คุณครับ
1. ความน่าเชื่อถือ ก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าแต่ละชิ้นได้นั้น จะต้องดูความน่าเชื่อถือของร้านค้าออนไลน์นั้นเสียก่อน สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือ ชื่อร้านค้า ชื่อผู้ขาย ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หากคุณจดทะเบียนร้านค้าพาณิชอิเล็กทรอนิกส์ด้วยก็จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือขึ้น
2. ความรวดเร็ว ความรวดเร็วในการนำเสนอ สินค้าที่ท่านประกาศขายนั้นมีความทันสมัยตามกาลเวลาหรือไม่ ความรวดเร็วในการบริการ หากคุณมีแฟนเพจ Facebook Instagram หรือ Social Media อื่นๆ คุณต้องหมั่นตรวจสอบตอบคำถาม และข้อสงสัยลูกค้าบ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้าควรจัดส่งสินค้าทันทีหรือไม่ควรเกิน 2 วัน เพราะเมื่อใดก็ตามที่ลูกค้าสั่งซื้อสินค้า หากมีเครื่องเร่งเวลาได้ เค้าคงอยากได้สินค้าในเวลานั้นเลย
3. คุณภาพการให้บริการ สินค้าหรือบริการของคุณต้องมีคุณภาพเสมอต้นเสมอปลาย ควรตรวจสอบความสมบูรณ์และความถูกต้องของสินค้าทุกครั้งก่อนส่งมอบให้กับลูกค้า คงไม่ดีแน่หากสินค้าของคุณส่งถึงมือลูกค้า แล้วปรากฎว่าใช้ไม่กี่ครั้งก็เจ้งซะแล้ว หากเป็นเช่นนี้ลูกค้าคงไม่กล้ากลับมาอุดหนุนสินค้าของคุณอีก
4. ความสวยงาม คำโบราณกล่าวไว้ว่า "ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง" เว็บไซต์ที่นำเสนอสินค้า หากได้รับการตกแต่งให้สวยงามแล้วจะทำให้เพิ่มความน่าเชื่อถือ และดึงดูดผู้ชมให้เข้ามามากยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนเว็บไซต์เป็นคนธรรมดา มีหรือคุณจะไม่ชอบคนหน้าตาดี แต่งตัวดี สะอาดสะอ้านจริงมั้ยครับ
5. เสนอเพียงสาระสำคัญ สถิติบอกไว้ว่าคนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ 7 บรรทัด จริงเท็จอันนี้ผมไม่ทราบ แต่พฤติกรรมของคนนั้นชอบเนื้อหาที่มีรูปภาพมากกว่าตัวหนังสือแน่นอนครับ ดังคำกล่าว "ภาพ 1 ภาพแทนความหมายได้มากกว่าพันคำ" เว็บไซต์หน้าแรกของคุณควรมีรูปภาพที่สื่อความหมายอย่างตรงประเด็น คำอธิบายสรุปที่สั้นได้ใจความ และอย่างลืมปุ่มสำหรับอ่านเพิ่มเติมด้วยนะครับ
6. ปรับโครงสร้างเว็บให้เหมาะกับ SEO หลายท่านอาจงงว่าเจ้า SEO นี่มันคืออะไร ใช่แล้วครับผมก็งงเหมือนกัน 555 แท้จริงแล้ว SEO นั้นย่อมาจาก Search Engine Optimization ซึ่งก็คือการทำการตลาดผ่าน Search Engine อย่าง Google โดยมีเป้าหมายคือการได้ปรากฎอยู่ในหน้าแรกของ Google