วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Backlink เป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษ 2 คำ คือ back แปลว่า ย้อนกลับ และ link แปลว่า การเชื่อมโยง เมื่อนำทั้งสองคำมารวมกันจะได้คำศัพท์ใหม่ Backlink ที่หมายถึง ลิงค์ที่เชื่อมโยงเข้าหาเว็บไซต์ของเรานั่นเอง ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของเว็บไซต์เราดังภาพด้านบน Google จะชอบเว็บไซต์ที่มี Backlink เยอะๆ เพราะนั่นหมายความว่าเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ ใครๆ ก็อยากเข้ามาชม ไม่เชื่อคุณลองเช็ค Backlink จากเว็บไซต์ที่อยู่ตามหน้าแรกของ Google ดูก็ได้ครับ แต่ละเว็บมี Backlink ระดับ 10,000 ลิงค์กันทั้งนั้น


แล้วเราจะหา Backlink ได้จากที่ไหนหร่ะ ???
1. ตามเว็บบอร์ดต่างๆ ที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด โดยคุณอาจนำลิงค์เว็บไซต์ไปแนบท้ายเพื่อเป็นลายเซ็นต์ก็ได้
2. เว็บไซต์ที่รับแลกลิงค์ฟรี เช่น เว็บเพิ่มไลค์ดอทคอม แต่ทั้งนี้อาจมีบางเว็บไซต์ที่ต้องการแลกเฉพาะเว็บไซต์ที่มีค่า Pagerank มากกว่า 2 ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของเจ้าของเว็บด้วย
3. นำลิงค์เว็บไซต์ไปฝากไว้ที่ Web Directory ซึ่งจะมีหมวดหมู่ให้คุณเลือกว่าเว็บไซต์คุณอยู่ประเภทใด
4. แชร์เว็บไซต์ผ่าน Social Network เช่น Facebook Google+ หรือ Twitter ซึ่งเว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ Google จะให้ความสำคัญเป้นอย่างมาก
5. ซื้อลิงค์จากเว็บไซต์ที่มีค่า Pagerank สูงๆ ซึ่งราคาก็จะแปรผันไปตามค่า Pagerank ด้วย อาจเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยถึงระดับหมื่นบาทเลยทีเดียว
6. นำเว็บไซต์ของคุณไปหา แหล่งแลกเปลี่ยนผู้เข้าชม (Traffic Exchange) เพื่อเพิ่มยอดคนดูเว็บไซต์

การเพิ่ม Backlink เป็นวิธีการทำ SEO ที่ค่อนข้างประหยัด แต่ต้องแลกมาด้วยความมุ่งมั่นพยายามในการหา Backlink ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางทีการที่คุณมี Backlink เยอะๆ และได้จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ Pagerank สูงๆ เว็บไซต์คุณอาจติดอันดับ Top 10 Google ได้ในเวลาที่รวดเร็วอย่างแน่นอน ที่สำคัญอย่าลืมใส่ใจในคุณภาพของการนำเสนอเนื้อหาเว็บไซต์ด้วย Backlink นั้นเป็นเพียงองค์ประกอบภายนอกเท่านั้น สิ่งที่จะตราตรึงใจผู้เข้าชมได้ตลอดคือ คุณภาพและความใส่ใจในบริการที่พร้อมมอบให้กับลูกค้า

วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ผู้ใช้เฟซบุ๊คบนโลกใบนี้ล้วนเป็นผู้ใช้ที่ได้รับการยืนยันตัวตน และใช้เฟซบุ๊คเป็นตัวแทนของตนเองในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนสมาชิกบนโลกไซเบอร์ หากจะเปรียบเทียบแล้วเฟซบุ๊คก็เหมือนกับบ้านของเรานั่นเอง โดยมีชื่อเฟซหรือลิงค์เว็บที่เปรียบเสมือนที่อยู่บ้าน หากบ้านของคุณมีใครก็ไม่รู้เดินเข้ามาในบ้านเราได้โดยที่มิได้รบอนุญาตจากเจ้าของบ้านก่อน คงเป็นเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยแน่นอน ดังนั้นก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวบนเฟซบุ๊ค คุณควรสำรวจให้ดีเสียก่อนว่าเฟซบุ๊คที่ใช้งานอยู่นั้นมีความปลอดภัยดีหรือไม่ หนึ่งในวิธีที่แฮกเกอร์สามารถนำข้อมูลส่วนตัวของคุณไปใช้ได้ก็คือ การขออนุญาตเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวผ่านแอพลิเคชั่นบนเฟซบุ๊ค เรามาตรวจสอบกันดีกว่าครับว่าเฟซบุ๊คของคุณมีแอพลิเคชั่นแปลกๆ เข้ามาอยู่ในบัญชีหรือเปล่า ดังนี้
เข้าสู่ระบบเฟซบุ๊คของคุณ จากนั้นให้คลิกที่ การตั้งค่า
จากนั้นคลิกที่ แอพ จะปรากฎแอพลิเคชั่นที่สามารถเข้าถูกข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ตลอดเวลา ทั้งนี้คุณสามารถคลิกเพื่อดูระดับการเข้าถึงของแอพลิเคชั่นที่ต้องการได้ หากต้องการลบแอพลิเคชั่นที่ไม่รู้จักให้คลิกที่เครื่องหมายกากบาทบนแอพลิเคชั่นที่ต้องการ
เฟซบุ๊คจะให้เลือกว่าต้องการลบแอพลิเคชั่นทั้งหมดรวมทั้งกิจกรรมต่าง เช่น การโพสต์ข้อความโดยแอพลิเคชั่น หรือไม่ (ผู้เขียนขอแนะนำให้คลิกตัวเลือกนี้ด้วย) เพียงเท่านี้เฟซบุ๊คของคุณก็จะปลอดภัยขึ้น
วันนี้ผมขอนำเสนอบริการ like แล้วได้เงิน เหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการหารายได้ยามว่าง อารมณ์คล้ายๆ กับการคลิกลิงค์ก่อนดาวน์โหลดโปรแกรม แต่บริการไลค์แล้วได้เงิน (เพิ่มไลค์) ได้รับเงินมากกว่า และเร็วกว่า  โดยการสมัครสมาชิกกับเว็บไซต์เพิ่มไลค์ดอทคอม http://permlike.com จากนั้นคลิกที่รับเหรียญเพื่อแลกเปลี่ยนไลค์ให้กับเพจอื่น
สมาชิกสามารถกดไลค์เพื่อรับเหรียญได้เรื่อยๆ หากมีเหรียญเยอะมากกว่า 1,500 Coin ก็สามารถนำมาแลกเป็นเงินดอลล่าเก็บไว้ใน Paypal ได้ตลอดเวลา
หากสมาชิกสามารถแนะนำเพื่อนมาสมัครสมาชิกผ่านลิงค์แนะนำ สมาชิกจะได้รับ 50 Coin เงินจริง $ 0.05 และค่าคอมมิตชัน 20% จากเพื่อนที่สมัครผ่านลิงค์ของเรา
เมื่อสมาชิกมีเงินในบัญชีมากพอ สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินจริงได้ ผ่านช่องทาง Paypal โดยกรอกที่อยู่บัญชี Paypal ของสมาชิก จากนั้นให้รอการยืนยันจากเว็บไซต์ สมาชิกจะได้รับเงินจริงภายใน 2-3 วัน
*** เพื่อเป็นการตอบแทน ท่านผู้อ่านสามารถนำรหัสคูปองนี้ 8344-5125-9550-8230 ไปใช้เพื่อรับเหรียญสมนาคุณจากเว็บ Permlike ด่วนมีจำนวนจำกัด จะได้เท่าไหร่นั้นท่านต้องไปลุ้นกันเองนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2557

การเพิ่มไลค์เพจเป็นวิธีเริ่มต้นที่ดีสำหรับธุรกิจหน้าใหม่ สิ่งแรกที่ผู้ใช้จะเข้าชมเว็บไซต์ของเราคือความนิยมชมชอบ มีเครดิตดีหรือไม่ คุณลองเปรียบเทียบดูครับระหว่างแฟนเพจที่มี 10,000 ไลค์ กับ 100 ไลค์ ถ้าเป็นคุณคุณจะเลือกเข้าชมแฟนเพจไหนเป็นลำดับแรก แน่นอนครับต้อง 10,000 ไลค์เป็นลำดับแรก ดังนั้นเราควรเริ่มสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์กันเลยดีกว่าครับ โดยเข้าไปที่เว็บ เพิ่มไลค์ดอทคอม และทำการ สมัครสมาชิก
คลิกที่เพิ่มเพจ (เมนูซ้ายมือ) หรือเข้าผ่านลิงค์ http://permlike.com/addurl.php
เลือกชนิดเพจเป็น "Facebook Likes"
เปิด Facebook และเข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย จากนั้นคลิกที่โปรไฟล์จะปรากฎลิงค์ (URL) ด้านบน
ให้ท่านทำการคัดลอกและวางลงในช่องลิงค์แฟนเพจ
กรอกชื่อแฟนเพจ เลือกจำนวนเหรียญที่ต้องการจ่ายให้ต่อ 1 คลิก กรอกจำนวนคลิกสูงสุดและจำนวนคลิกที่ต้องการต่อวัน (หากไม่ต้องการให้ปล่อยว่างไว้) จากนั้นคลิกเพิ่มเพจ เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถเพิ่มไลค์แฟนเพจได้แล้ว

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557

โลกออนไลน์กำลังตื่นตระหนกกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ Phishing ซึ่งหมายถึงการหลอกลวงทางอินเตอร์เน็ต โดยเว็บไซต์ดังกล่าวมีชื่อว่า Chibi ใช้โดเมนเนม http://thuthuatnew.com/quyen/new/ เป็นเว็บไซต์ต่างประเทศ ผู้เขียนทดลองเข้าไปอ่านเนื้อหาเว็บไซต์พบว่าเป้นข้อความที่มาจากการแปลของ Google Tanslate โดยจะหลอกล่อให้ผู้ใช้เข้าไปกรอกข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของเฟซบุ๊ค หลังจากนั้นไวรัสจะนำบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊คไปล็อกอิน และทำการกระจายข้อความต่างๆ ที่ต้องการ โดยมีหลังการทำงาน ดังนี้
1. Chibi จะหลอกให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้งาน Facebook ตามลิงค์ที่แสดงไว้ เมื่อคลิกเข้าไปตามลิงค์ปรากฎว่า Chibi ทำการโคลนหน้าเว็บไซต์ของเฟซบุ๊คไว้ในเครื่องตัวเอง หากพิมพ์ชื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่านเข้าไป Chibi จะทำการบันทึกลงในฐานข้อมูลของเว็บไซต์อัตโนมัติ เพื่อเก็บไว้ใช้งานภายหลัง
2. จากนั้น Chibi จะหลอกให้ผู้ใช้คัดลอกโค้ด Javascript ตามลิงค์นี้ http://thuthuatnew.com/quyen/codemoi.txt และวางไว้ที่ Console ของบราวเซอร์ Script จะทำการโพสต์ภาพและลิงค์ต่างๆ ไปยังหน้าโปรไฟล์ กลุ่มสนทนา ดังภาพ
วิธีการป้องกันไวรัส Chibi
1. ก่อนเข้าสู่ระบบ Facebook ควรตรวจสอบ URL ของเว็บไซต์ให้ดีเสียก่อนว่าเป็นเว็บไซต์ของจริงหรือไม่
2. หากเข้าเว็บไซต์ที่มีการขออนุญาตเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ควรอ่านให้ละเอียดเสียก่อนว่าเว็บไซต์นั้นต้องการสิทธิ์ในการใช้งาน Facebook ระดับใด
3. ไม่ควรเผยแพร่ Facebook Token ให้กับผู้อื่นทราบ
4. หากผู้ใช้เผลอกรอกชื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่านไปแล้ว ให้ท่านรีบเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่โดยทันที
5. หมั่นตรวจสอบแอพลิเคชันใน Facebook อยู่เสมอ หากพบแอพลิเคชันต้องสงสัยควรรีบลบออกทันที สามารถตรวจสอบได้ที่ลิงค์นี้ ตรวจสอบแอพลิเคชัน
จากสถิติการใช้งานเว็บไซต์ทั่วโลก เว็บไซต์ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คงไม่พ้น Google อย่างแน่นอน แล้วเหตุใดถึงเป็นเช่นนั้นได้ ??? คุณลองคิดดูซิครับ หากคุณต้องการค้นหาสิ่งใดก็ตาม เพียงแค่พิมพ์ค้นหาใน Google ก็จะได้รับคำตอบอย่างรวดเร็ว Google จึงเปรียบเสมือนเป็นดัชนีที่ช่วยค้นหาที่อยู่ของเว็บไซต์เราให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เว็บไซต์เกิดใหม่เปรียบเสมือนเข็มในมหาสมุทร หากไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนคงใช้เวลานานไม่ใช่น้อยกว่าจะหาเจอ ถูกมั้ยครับ ! เว็บไซต์ที่ Google ชอบต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้น ดังนี้
1. เนื้อหาต้องไม่เหมือนใคร Google ทราบดีหากคุณคัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่น และมาโพสต์ไว้ที่เว็บไซต์ของคุณ Google จะมองว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บขยะทันที
2. อัพเดตข้อมูลเป็นประจำ Google จะส่งโรบอท (Google Robot) เข้ามาเก็บข้อมูลตามเส้นทางในเว็บไซต์ของคุณ หากเว็บไซต์มีความเคลื่อนไหวอยู่เป็นประจำ เจ้าตัวโรบอทจะหมั่นมาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอๆ แลนั่นก็แปลว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์เป้าหมายของ Google แล้ว
3. ใช้คีย์เวิร์ดให้เป็นประโยชน์ Google สามารถตรวจสอบได้ว่าเว็บไซต์มีบทความเกี่ยวกับเรื่องใดมากที่สุด โดยการนำบทความต่างๆ มาค้นหาคีย์เวิร์ดที่ซ้ำกันมากที่สุด และนำมาจัดทำดัชนีในการค้นหา ดังนั้นในเนื้อหาบทความควรประกอบด้วยคีย์เวิร์ดอย่างน้อย 3-5 คำต่อ 1 บทความ
4. ลิงค์ภายในต้องเชื่อมโยงกัน โรบอทกูเกิ้ลจะเดินทางได้ต้องอาศัยเส้นทาง (Link) ที่เชื่อมโยงไปยังสถานที่ต่างๆ เว็บไซต์ของคุณต้องมีลิงค์ภายในที่สามารถเชื่อมโยงไปมาหาสู่กันได้ เปรียบเสมือนหน้าเว็บเพจคือบ้านและลิงค์คือถนน
5. เก็บรักษา Page Rank ไว้ให้ดี คุณต้องลิงค์ไปยังเว็บไซต์ภายนอกให้น้อยที่สุด หากจำเป็นจริงๆ ควรเพิ่มแอตทริบิวต์ rel=’nofollow’ ในแท็ก <a></a> ด้วยทุกครั้ง
เทคนิคเบื้องต้น 5 ข้อที่ได้กล่าวมานี้ จะช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณมีคุณค่าในสายตา Google และ Search Engine อื่นๆ ได้อย่างแน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ทุกวันนี้มีธุรกิจเกิดใหม่มากมายผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด และธุรกิจที่มาแรงในตอนนี้คงขาดไม่ได้คือการขายสินค้าออนไลน์ ด้วยข้อดีของการขายสินค้าออนไลน์ที่ประหยัดทั้งต้นทุน ประหยัดเวลาในการซื้อสินค้า ผู้ใช้เพียงแค่ค้นหาใน Google สินค้าที่ต้องการก็จะปรากฎให้คุณได้ช็อปกระจายกันเลยทีเดียว แต่ทำอย่างไรหร่ะถึงได้ไปอยู่อันดับต้นๆ ของ Google ได้ วันนี้เรามีคำตอบให้คุณครับ
1. ความน่าเชื่อถือ ก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าแต่ละชิ้นได้นั้น จะต้องดูความน่าเชื่อถือของร้านค้าออนไลน์นั้นเสียก่อน สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือ ชื่อร้านค้า ชื่อผู้ขาย ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หากคุณจดทะเบียนร้านค้าพาณิชอิเล็กทรอนิกส์ด้วยก็จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือขึ้น
2. ความรวดเร็ว ความรวดเร็วในการนำเสนอ สินค้าที่ท่านประกาศขายนั้นมีความทันสมัยตามกาลเวลาหรือไม่ ความรวดเร็วในการบริการ หากคุณมีแฟนเพจ Facebook Instagram หรือ Social Media อื่นๆ คุณต้องหมั่นตรวจสอบตอบคำถาม และข้อสงสัยลูกค้าบ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้าควรจัดส่งสินค้าทันทีหรือไม่ควรเกิน 2 วัน เพราะเมื่อใดก็ตามที่ลูกค้าสั่งซื้อสินค้า หากมีเครื่องเร่งเวลาได้ เค้าคงอยากได้สินค้าในเวลานั้นเลย
3. คุณภาพการให้บริการ สินค้าหรือบริการของคุณต้องมีคุณภาพเสมอต้นเสมอปลาย ควรตรวจสอบความสมบูรณ์และความถูกต้องของสินค้าทุกครั้งก่อนส่งมอบให้กับลูกค้า คงไม่ดีแน่หากสินค้าของคุณส่งถึงมือลูกค้า แล้วปรากฎว่าใช้ไม่กี่ครั้งก็เจ้งซะแล้ว หากเป็นเช่นนี้ลูกค้าคงไม่กล้ากลับมาอุดหนุนสินค้าของคุณอีก
4. ความสวยงาม คำโบราณกล่าวไว้ว่า "ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง" เว็บไซต์ที่นำเสนอสินค้า หากได้รับการตกแต่งให้สวยงามแล้วจะทำให้เพิ่มความน่าเชื่อถือ และดึงดูดผู้ชมให้เข้ามามากยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนเว็บไซต์เป็นคนธรรมดา มีหรือคุณจะไม่ชอบคนหน้าตาดี แต่งตัวดี สะอาดสะอ้านจริงมั้ยครับ
5. เสนอเพียงสาระสำคัญ สถิติบอกไว้ว่าคนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ 7 บรรทัด จริงเท็จอันนี้ผมไม่ทราบ แต่พฤติกรรมของคนนั้นชอบเนื้อหาที่มีรูปภาพมากกว่าตัวหนังสือแน่นอนครับ ดังคำกล่าว "ภาพ 1 ภาพแทนความหมายได้มากกว่าพันคำ" เว็บไซต์หน้าแรกของคุณควรมีรูปภาพที่สื่อความหมายอย่างตรงประเด็น คำอธิบายสรุปที่สั้นได้ใจความ และอย่างลืมปุ่มสำหรับอ่านเพิ่มเติมด้วยนะครับ
6. ปรับโครงสร้างเว็บให้เหมาะกับ SEO หลายท่านอาจงงว่าเจ้า SEO นี่มันคืออะไร ใช่แล้วครับผมก็งงเหมือนกัน 555 แท้จริงแล้ว SEO นั้นย่อมาจาก Search Engine Optimization ซึ่งก็คือการทำการตลาดผ่าน Search Engine อย่าง Google โดยมีเป้าหมายคือการได้ปรากฎอยู่ในหน้าแรกของ Google